สมรรถนะการรู้ดิจิทัลสำหรับบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทย
Digital Literacy Competencies for Librarians at Thai Research University Libraries
คำสำคัญ:
การรู้ดิจิทัล, ทักษะการรู้ดิจิทัล, บรรณารักษ์, สมรรถนะ, สมรรถนะการรู้ดิจิทัลบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทยเกี่ยวกับสมรรถนะการรู้ดิจิทัลสำหรับบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทย 2) เพื่อเปรียบเทียบความเห็นของบรรณารักษ์ห้องสมุด มหาวิทยาลัยวิจัยไทยเกี่ยวกับสมรรถนะการรู้ดิจิทัลของบรรณารักษ์ที่ทำงานในฝ่าย/งานที่แตกต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยส่งเสริมสมรรถนะการรู้ดิจิทัลในการปฏิบัติงานของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งบรรณารักษ์ นักเอกสารสนเทศ นักบรรณสารสนเทศ ที่ปฏิบัติงานในห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ 9 แห่ง จำนวนประชากรทั้งหมด 282 คน รวบรวมข้อมูลได้จำนวน 241 คน (ร้อยละ 85.46) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธี Fisher’s Least Significant Difference (LSD) ผลการศึกษาความคิดเห็นของบรรณารักษ์ที่มีต่อสมรรถนะการรู้ดิจิทัลสำหรับบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทย พบว่า สมรรถนะด้านความรู้ มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ( X =4.08) ด้านความรู้พื้นฐานที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความรู้ ในประเด็นทางสังคม ความเป็นส่วนตัว และจริยธรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านความรู้เฉพาะวิชาชีพที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการรู้จักผู้ใช้ในยุคดิจิทัลและเข้าใจพฤติกรรมการใช้สารสนเทศดิจิทัล สมรรถนะด้านทักษะ มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ( X =4.15) ด้านทักษะพื้นฐานที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ทักษะการทำงานเป็นทีม และด้านทักษะเฉพาะวิชาชีพที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ทักษะการใช้แอปพลิเคชันอุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Application) สำหรับการทำงานเพื่อการให้บริการสารสนเทศดิจิทัล สมรรถนะด้านคุณลักษณะ มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ( X =4.50) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่า บรรณารักษ์ที่มีฝ่าย/งานต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสมรรถนะการรู้ดิจิทัลของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในด้านสมรรถนะด้านความรู้ 3 ประเด็น คือ 1) ความรู้ด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงในการปฏิบัติงาน 2) ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการวิจัย และ 3) ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาฐานข้อมูลเบื้องต้น และสมรรถนะด้านทักษะ 5 ประเด็น คือ 1) ทักษะการทำงานเป็นทีม 2) ทักษะการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ การบริหารจัดการ วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลเพื่อใช้ในการวางแผนและการตัดสินใจ 3) ทักษะการใช้ แอปพลิเคชันอุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Application) สำหรับการทำงานเพื่อการให้บริการสารสนเทศดิจิทัล 4) ทักษะการใช้ เครื่องมือการตรวจสอบการโจรกรรมทางวิชาการ (Plagiarism) ได้อย่างถูกต้อง และ 5) ทักษะการลงรายการและการเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและมาตรฐานสากล ยกเว้นสมรรถนะด้านคุณลักษณะมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติส่วนผลการศึกษาปัจจัยส่งเสริมสมรรถนะการรู้ดิจิทัลในการปฏิบัติงานของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวิจัยไทย มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ( X =4.48) มีค่าเฉลี่ยเรียงตามลำดับจากมากไปน้อย คือ ด้านบุคลากรและการพัฒนาบุคลากร ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านนโยบายของผู้บริหารห้องสมุด ด้านนโยบายของมหาวิทยาลัย และด้านสภาพแวดล้อมภายนอก ตามลำดับ
ดาวน์โหลด
ตีพิมพ์แล้ว
ฉบับ
ส่วน
ใบอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 อินฟอร์เมชั่น ✍ Information

ผลงานนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
อินฟอร์เมชั่น